อาลีบาบา โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (NYSE: BABA)ประกาศยอดมูลค่าสินค้ารวม (GMV) ของวันที่ 11พฤศจิกายน 213,500หยวน (ประมาณ 30,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 27%เทียบกับปีที่ผ่านมา
“วันนี้ เราได้เห็นความแข็งแกร่งและการเติบโตของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคของจีน จากการที่ผู้บริโภคมุ่งแสวงหาการยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน” นายแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “การที่ธุรกิจในระบบนิเวศทั้งหมดของอาลีบาบาได้เข้าร่วมในงานนี้ ทำให้แบรนด์และพันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ สามารถสร้างการปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในอนาคต อาลีบาบาจะยังคงเป็นผู้นำวิวัฒนาการเพื่อก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ดิจิทัลในอนาคต”
ไฮไลท์หลัก ๆ ที่เกิดขึ้นในมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ในปี 2561
- ยอดมูลค่ารวมสินค้าที่ชำระผ่านอาลีเพย์ 213,500ล้านหยวน (30,800ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 27%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค ดูแลรับผิดชอบการส่งสินค้า1,000 ล้านออเดอร์
- กว่า 180,000แบรนด์ เข้าร่วมในเทศกาล
- ผู้บริโภคกว่า 40%ซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์ต่างชาติ
- มี 237แบรนด์ที่มียอด GMV สูงกว่า 100ล้านหยวน อาทิ Apple, Dyson, Kindle, Estée Lauder, L’Oréal, Nestlé, Gap, Nike and Adidas
- ประเทศที่ขายสินค้าให้กับจีนในงานนี้สูงสุดคือญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี
- 230ประเทศ/เขต เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
- ลาซาด้า เข้าร่วม11ในฐานะหนึ่งในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา นำเสนองานเทศกาลนี้ให้กับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทศกาล สามารถติดตามได้ทางทวิตเตอร์ www.twitter.com/AlibabaGroupหรือMedia Resourcesบนเว็บไซต์ข่าวของอาลีบาบา Alizila